เพื่อน ๆ รู้ไหมว่า…อาการปวดท้องก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือนเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงหลายคนต้องเจอ บางคนอาจแค่แน่น ๆ บ้าง บางคนปวดหนักถึงขั้นนอนไม่หลับ การเข้าใจสาเหตุและวิธีดูแลตัวเองสามารถช่วยให้วันนั้นผ่านไปอย่างสบายขึ้นค่ะ
ปวดท้องประจำเดือนแบบไหนปกติ?
อาการปวดประจำเดือนที่ถือว่าปกติหรือเรียกว่า Primary Dysmenorrhea มักเกิดจากสาร “โพรสตาแกลนดิน” ที่ร่างกายสร้างขึ้น ทำให้มดลูกหดรัดตัวเพื่อขับเยื่อบุมดลูกออก ซึ่งอาการมักเป็นดังนี้:
- ปวดเกร็งท้องน้อย 1–2 วันแรกของรอบเดือน
- ปวดเป็นพัก ๆ หรือแบบร้าวมายังหลังหรือต้นขา
- อาจมีอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย หรืออ่อนเพลียบ้าง
- ไม่รุนแรงจนกระทบชีวิตประจำวันมาก และสามารถบรรเทาด้วยการดูแลตัวเองง่าย ๆ ได้

อาการที่“ควรพบแพทย์”
หากพบหนึ่งในอาการต่อไปนี้ แนะนำให้รีบปรึกษสูตินรีแพทย์:
- ปวดท้องมากกว่าทุกเดือน หรือปวดรุนแรงจนต้องใช้ยาแก้ปวดหลายครั้งต่อวัน
- ปวดร้าวลงขา ปวดในช่วงมีเพศสัมพันธ์ หรือมีตกขาวผิดปกติ
- ประจำเดือนมามากจนเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 1–2 ชั่วโมง
- มีไข้ ปวดท้องน้อยแบบอักเสบหรือเฉียบพลัน
- ตกขาวมีกลิ่นหรือมีเลือดออกนอกรอบเดือน
อาการเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับภาวะอย่างเช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, เนื้องอกมดลูก, หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นอกมดลูก ฯลฯ ซึ่งต้องได้รับการวินิจฉัยและดูแลอย่างถูกต้อง
วิธีบรรเทาอาการปวดท้องเมนส์ แบบอ่อนโยน
เมื่ออาการปวดไม่ถึงขั้นรุนแรง เราสามารถบรรเทาได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน:
- ประคบร้อนบริเวณท้องน้อย
ช่วยให้กล้ามเนื้อมดลูกคลายตัว ลดความเกร็งได้ - อาบน้ำอุ่นหรือดื่มเครื่องดื่มอุ่น
เช่น น้ำขิง น้ำอุ่นหรือน้ำผึ้งผสมมะนาว ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย - ออกกำลังกายเบา ๆ
เดินเล่น โยคะ หรือพิลาทิสช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดซ้ำ - รับประทานอาหารที่ช่วยลดเกร็งกล้ามเนื้อ
เช่น กล้วย ตำลึง ผักโขม ปลาทะเลน้ำลึก ที่มีแมกนีเซียมและโอเมก้า‑3 ช่วยให้กล้ามเนื้อนุ่มขึ้น - ใช้ยาแก้ปวดเมื่อจำเป็น
เช่น ไอบูโพรเฟน ยาต้านโพรสตาแกลนดิน สามารถรับประทานก่อนอาการเริ่มหรือระหว่างปวด เพื่อบรรเทาได้อย่างปลอดภัย - ผ่อนคลาย เคลียร์ความคิด
การนั่งสมาธิ ฟังเพลง หรือพักสายตา ก็ทำให้ความตึงเครียดลดลง คอร์ติโซลลดลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากขึ้น
สรุป
- ปวดท้องประจำเดือนในระดับเบา-ปานกลาง และหายภายใน 1–2 วัน ถือว่าปกติและดูแลได้เอง
- หากอาการปวดรุนแรง ปวดเรื้อรัง หรือมีอาการอื่นร่วม ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษา
- การดูแลตัวเองง่าย ๆ เช่น ประคบร้อน ดื่มน้ำอุ่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อ และพักผ่อน อาจช่วยให้รอบเดือนดีขึ้นมาก